นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนท้องถิ่น อย่างยั่งยืน กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงเดินหน้าขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง GI เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างความเชื่อมั่นในแหล่งต้นกำเนิดให้กับสินค้าชุมชนท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชนด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ผลิตได้ในพื้นที่ของชุมชนท้องถิ่น ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียน GI ตัวใหม่ “ข้าวเบายอดม่วงตรัง” ซึ่งเป็น GI รายการที่ 3 ของจังหวัดตรัง ต่อจากพริกไทยตรัง และหมูย่างเมืองตรังที่ได้ขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้
“ข้าวเบายอดม่วงตรัง” เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองประจำถิ่นที่คนตรังรู้จักกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีการเก็บรักษาสายพันธุ์ข้าวมากว่า 100 ปี มีลักษณะเด่นคือในหนึ่งกอข้าวเปลือกจะมีหลายสี แรกเริ่มสีเขียว จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวจะมีสีม่วงคล้ายสียอดมะม่วง จึงเป็นที่มาของชื่อข้าวเบายอดม่วงตรัง สัมผัสของข้าวเมื่อหุงแล้วมีเหนียวนุ่ม ไม่กรุบหรือกระด้าง เคี้ยวง่าย ไม่ฝืดคอ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติโดดเด่นตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เพราะเป็นข้าวที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนสูงกว่าข้าวทั่วไป มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จึงทำให้ข้าวเบายอดม่วงตรัง เริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งคนในจังหวัด กลุ่มคนที่สนใจเรื่องสุขภาพและกลุ่มคนทั่วไปคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายวุฒิไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยความเข้มแข็งของเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดตรัง รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่ของจังหวัด ที่เห็นความสำคัญของการขึ้นทะเบียน GI เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน ที่มีอัตลักษณ์นำมาสู่การขึ้นทะเบียน GI อย่างต่อเนื่อง ของจังหวัดตรัง เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สำหรับวิสาหกิจชุมชนหรือชุมชนท้องถิ่นที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์ และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง สามารถขอคำปรึกษาเพื่อยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง