นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ36.90 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ36.86 บาทต่อดอลลาร์คำพูดจาก สล็อต777
โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในกรอบ 36.80-36.91 บาทต่อดอลลาร์) ไปตามทิศทางของเงินดอลลาร์ และราคาทองคำ ที่ยังคงแกว่งตัวในกรอบ
เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นปัจจัยใหม่ ๆ เพิ่มเติมในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ อาทิ รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก
ทั้งนี้ เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านสำคัญ 36.90 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ไกล เนื่องจาก ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดอย่างฝั่งผู้ส่งออกต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ในโซนดังกล่าวบ้าง แต่หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่องทดสอบระดับ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ และระดับ 37.25 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนค่าสุดของเงินบาทในปี 2023 ที่ผ่านมาได้
สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินผันผวนหนักและอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา นอกจากนี้ ควรรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ ของสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น
แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่าโมเมนตัมฝั่งอ่อนค่ายังมีอยู่ โดยต้องจับตาทิศทางเงินดอลลาร์และแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ โฟลว์จ่ายปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ (ราว 1.6 หมื่นล้านบาท) ก็สามารถกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ และราคาพลังงาน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่พร้อมจะกลับมาร้อนแรงขึ้นได้ทุกเมื่อ
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้ หากตลาดยังคงปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off)หรือรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ส่วนอัตราเงินเฟ้อ PCE ก็ไม่ได้ชะลอลงตามคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดมากขึ้น (ล่าสุด ผู้เล่นในตลาดมองเฟดอาจลดดอกเบี้ยไม่ถึง 2 ครั้งในปีนี้)
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 36.50-37.25บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.80-37.00บาท/ดอลลาร์
ขณะที่ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ 36.90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 36.88 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังอิหร่านส่งสัญญาณว่าไม่มีแผนการที่จะตอบโต้อิสราเอล หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า อิสราเอลได้ทำการโจมตีอิหร่าน ส่วนปัจจัยลบที่ยังคงส่งผลต่อตลาดเงินในช่วงนี้ ได้แก่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่สูงเกินคาด, ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่าเฟดอาจยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงไปอีกนาน ทำให้ตลาดหมดหวังที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือน มี.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน เม.ย. (เบื้องต้น) ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
เมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,411 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3,768 ล้านบาท
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 36.75 – 37.05 แนะนำทยอยซื้อที่ 36.80/ขาย 37.00
EUR/THB 39.00 – 39.50 แนะนำทยอยซื้อที่ 39.15 / ขาย 39.50
JPY/THB 0.2360 – 0.2400 แนะนำทยอยซื้อที่ 0.2365 – 0.2400
GBP/THB 45.35 – 45.85คำพูดจาก เว็บพนันออน
AUD/THB 23.55 – 23.85
"ชาบี" ตำหนิลา ลีกา น่าอายไม่มีโกลไลน์ หลังบาร์ซ่า พ่าย เรอัล มาดริด
“บิ๊กโจ๊ก” ยื่นเอาผิดพนักงานสอบสวน-นายกฯ มั่นใจได้กลับมาแน่!